ผมเองเป็นคนที่เคยใช้ Bledner มานานมากแล้ว เรียกว่าเริ่มต้นหันหน้าเข้าสู่แวดวงโอเพนซอร์สก็เริ่มที่ Blender นี่แหล่ะ แต่เนื่องจากพอเริ่มทำงานก็ไม่ค่อยได้ใช้งานโปรแกรมลักษณะนี้สักเท่าไหร่ เลยไม่ได้ใช้งานมานาน แต่พอดีว่าช่วง 1เดือน ที่ผ่านมา มีเหตุให้ต้องกลับมาจับ Blender อีกครั้ง ซึ่ง Blender รุ่นใหม่ก็ถือว่าใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ไหนๆ แล้วได้มีโอกาสกลับมารื้อฟื้นก็มาขอบันทึกวิธีใช้งานไว้สักหน่อย เผื่อต้องกลับมาใช้เองอีกครั้ง
ในตอนแรกจะขอแนะนำเกี่ยวกับอินเทอร์เฟสของ Blender ก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมจะต้องแนะนำก่อนทุกครั้ง ถ้าจะต้องมีการสอน Blender ที่ไหนก็ตาม
Bledner เป็นโปรแกรมที่มีอินเทอร์เฟสที่แปลก ผมไม่เคยเห็นอินเทอร์เฟสแบบนี้ที่ไหนมาก่อนเลย มันดูงงๆ วุ่นวาย แต่ถ้าเข้าใจละก็จะต้องชอบแน่ๆ เพราะมันยืดหยุ่น และปรับได้ดั่งใจ
โปรแกรม Blender นั้น จะมีหน้าจออยู่หลายแบบ ซึ่งหน้าจอแต่ละแบบนั้นจะมีไว้เพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน หน้าจอของ Blender จะมีด้วยกันดังนี้
ซึ่งกันที่เรามักจะได้ใช้บ่อยก็คือ
- Outliner ใช้แสดงรายการวัตถุต่างๆ ในไฟล์ที่เราทำอยู่ ซึ่งในกรณีที่ไฟล์ของเราประกอบไปด้วยวัตถุหลายชิ้น หน้าจอนี้จะช่วยได้มาก
- Properties ใช้ตั้งค่าต่างๆ ให้กับวัตถุ
- 3D View
3 หน้าจอนี้จะเป็นส่วนที่เราใช้บ่อย ในกรณีที่เราทำงานเกี่ยวกับการปั้นโมเดล ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นล่ะ ถ้าเราใช้ Blender ล่ะก็
เมื่อเปิดโปรแกรม Blender ขึ้นมาครั้งแรก เราจะเห็นหน้าจอต่างๆ ใน Blender เต็มไปหมด
ซึ่งถ้าดูตามภาพแล้ว เราจะเห็นว่ามันจะมีถึง 5 หน้าจอด้วยกันเลยทีเดียว
ทีนี้ ในหน้าจอแต่ละหน้าจอนั้น มันจะมีไอคอนอยู่
ซึ่งไอคอนนี้จะทำให้เราสามารถเปลี่ยนหน้าจอที่แสดงอยู่นี้ให้เป็นหน้าจออื่นได้ แนะนำว่าให้ลองปรับดูครับ
ส่วนที่พิเศษมากสำหรับอินเทอร์เฟสของ Blender อย่างที่ได้เกริ่นไว้ว่า ผมเองไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนก็คือ ไอ้หน้าจอต่างๆ ที่เราเห็นในตอนแรกถึง 5หน้าจอนี้ เราสามารถเพิ่ม ลด จำนวนมันเท่าไหร่ก็ได้
ให้สังเกตที่มุมซ้ายล่างและขวาบนของหน้าจอแต่ละหน้าจอ จะมีเส้นลายเฉียงๆ อยู่ที่มุมของหน้าจอ ถ้าเราคลิกที่เส้นดังกล่าวแล้วลาก เราจะสามารถเพิ่มหน้าจอ หรือรวมหน้าจอที่เราคลิก ให้รวมเป็นหน้าจอเดียวกับหน้าจอที่อยู่ติดกันได้ โดยถ้าเราคลิกที่เส้นเฉียงๆ นั้น แล้วลากไปทับหน้าจออื่น สองหน้าจอนั้นก็จะถูกรวมกันกลายเป็นหน้าจอเดียว และถ้าเราลากเข้ามาที่ตรงกลางของหน้าจอของมันเอง มันก็จะเพิ่มจำนวนขึ้น อันนี้อธิบายให้เห็นภาพได้ยาก ต้องลองกันเอง
นอกจากนี้ที่เส้นคั่นระหว่างหน้าต่างเราสามารถลากเพื่อปรับขนาดของหน้าต่างได้อีกด้วย
จะเห็นได้ว่าเฉพาะ Interface ของ Blender เองก็ชวนงงได้พอสมควรแล้ว แต่อย่างที่บอกว่า ถ้าได้ลองใช้แล้วจะชอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น